14 ธันวาคม 2563
และแล้ววันนี้ก็เดินทางมาถึง วันที่ย้ายมาทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ครบ 1 ปีพอดี จากวันนั้นถึงวันนี้ มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะแยะมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงเลยคือ โคโรน่า หรือ Covid-19 ก็ยังระบาดต่อไป เป็น 1 ปีที่อยู่แต่ในคอนโดเป็นส่วนมาก ไม่รู้เมื่อไหร่ชีวิตจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม หรือมันจะมีวันนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือว่าดิฉันต้องใช้ชีวิตแบบหวาดระแวงต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ
บ่นไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ได้แต่รอเนอะ 1 ปีที่อยู่ฟิลิปปินส์ มันเหมือนเวลามันผ่านไปเร็วๆมากๆเลยปีนี้เพราะไม่ได้ทำไร ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้มีการเดินทางคือก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียวเลย ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์เป็นอะไรที่ยาวนานจริงๆเพราะมีวันหยุดแค่วันเดียวเอง เหมือนไม่พอเลยอ่ะ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็ไม่มีอะไรพัฒนาปรับปรุงเลย เพราะผู้ติดเชื้อก็เยอะเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรปรับปรุงเท่าไหร่ ไม่รู้ประเทศนี้ทำงานกันแบบไหน แต่ข้อดีคือเมื่อเราอยู่ในที่ๆอันตราย ดิฉันก็ตระหนักอยู่ตลอดว่ามันอันตรายผู้ติดเชื้อมันเยอะอยู่ตลอด จะไม่ประมาท ดิฉันจะ Aware ตลอดคือต้องใส่หน้ากากนะ ต้องล้างมือ ต้องฉีดสเปรย์ พอออกไปข้างนอกก็ต้องระวังตัวเองมากๆ จะไม่เดินทางไปในที่ๆ มีคนอยู่เยอะ คือระมัดระวังตัวมากๆค่ะ
เปิดดูในกลุ่มของชาวไทยที่อยู่ในประเทศอเมริกา เริ่มได้รับวัคซีนของบริษัท Pfizer บางคนได้รับเพราะเป็นคนที่ทำงานในสถานพยาบาลหรือเป็นบุคคลาการทางการแพทย์ หลายๆคนบอกไม่อยากฉีดวัคซีนนี่แต่เลี่ยงไม่ได้
จริงๆก็ไม่รู้วัคซีนจะได้ประสิทธิภาพแค่ไหนกัน ไม่รู้แน่ชัดเพราะร่างกายแต่ละคนมันไม่เหมือนกันสักคนเลย ระบบภูมิคุ้มกันคนเรามันก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง บางคนแข็งแรง บางคนไม่ค่อยแข็งแรง โคโรน่านี่มาเพื่อทำรายชีวิตคนเราอย่างแท้จริง
แล้วเมื่อไหร่ที่คนไทยในประเทศไทยจะได้รับวัคซีนบ้างนะ อยากให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ อย่างน้อยก็น่าจะให้คนต่างประเทศเดินทางกลับไทยได้โดยไม่ต้องรอลงทะเบียนจากสถานทูต ให้จ่ายค่ากักตัวเองก็ว่ากันไป แต่ดูราคาค่ากักตัวแล้วมันแพงเกินเบอร์มาก ขั้นต่ำคือ 3 หมื่นบาท ค่าเครื่องบินไปก็แพงแล้วเจอค่ากักตัวไปนี่จนไปเลยค่ะ
ตลอดระยะเวลา 1 ปีมานี้ ผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนเสียชีวิตหลายล้านคนทั่วโลก ดูจำนวนผู้ติดเชื้อกับผู้เสียชีวิตแล้วเศร้ามากๆ ช่วงหลังมาเลยเลิกดูข่าวโควิด กดดูแค่ข่าววัคซีนอย่างเดียวเลย เพราะอยากให้มีวัคซีน และยังมีควมหวังว่าชาวโลกจะได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพจริงๆสักที ที่จะช่วยเหลือมนุษย์โลกทุกคนได้ อยากให้วัคซีนเข้าถึงทุกคนบนโลกใบนี้

เหมือนเขียนวกวนไปมาเรื่องโรคระบาดนี้ ขอหน่อยเถอะเครียดนะอยู่แต่แบบนี้ อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมจะออกไปไหนก็ไม่ได้ไป ไปก็ไปไกลไม่ได้ ความฝันที่อยากจะไปเที่ยวเกาะโบราไคย์ พาละวัน และอีกหลายๆเกาะในประเทศฟิลิปปินส์ก็คงต้องพับโครงการไปก่อนเพราะมันเสี่ยงเหลือเกินถ้าหากเกิดการติดเชื้อที่ประเทศนี้ ประเทศฟิลิปปินส์ไม่รู้จะเป็นยังไง ทางที่ดีหลีกเลี่ยงเลยการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ได้หรอก งานก็ทำงาน เงินก็ต้องหา ภาระก็มีเยอะเหลือเกิน ยังมาเจอโควิด โรคบรรลัยนี่อีก บ่นอีกกี่ปี คือมันเหมือนฝัน เมื่อปีที่แล้วอยู่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์เเลนด์ แล้วกลับเมืองไทย เพิ่งผ่านไปแปปเดียวเอง ไหนกลายเป็นแบบนี้ได้อ่ะ คิดไปก็ยังใจหายอยู่เลย คิดถึงเมืองไทย คิดถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้องไม่ได้เจอมาเป็นปีเลยนะ เจอพ่อแม่แค่ผ่าน วีดีโอคอล คือมันก็ไม่ได้แย่แต่ก็คงจะดีกว่านี้ถ้าดิฉันสามารถบินกลับไปเมืองไทย ไปเยี่ยมพ่อแม่ได้ จริงไหมคะ
คนไทยในต่างแดนจะรู้ดีว่าดิฉันรู้สึกยังไง ครั้งนี้มันนานไปนะ
โพสต์นี้ก็มาอัพเดตไว้ในไฟล์ส่วนตัวของตัวเอง กลับมาเปิดบล็อกหรือเว็บไซต์เหมือนเดิม
แต่อย่าลืมติดตามกันมานะคะ
และอย่าลืมเล่าเรื่องราวของเพื่อนๆบ้างนะคะ อยู่ประเทศไหนกันบ้าง ได้กลับบ้านบ้างหรือเปล่า
สำหรับ 1 ปีในประเทศฟิลิปปินส์เป็นปีที่มีคุณค่านะเอาจริงๆ เพราะเป็นปีที่ดิฉันดูแลพ่อแม่ ส่งเงินให้พ่อแม่ไม่เคยขาด พ่อแม่ได้อยู่สบายขึ้นเพราะเรามาทำงานเต็มเวลาไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวหรือออแพร์เหมือนแต่ก่อนแล้ว อะไรที่พ่อแม่อยากได้ก็ซื้อให้หมด ทางบ้านขาดเหลืออะไรเราก็ซื้อออนไลน์ส่งไปให้ ถือคติที่ว่าอยากซื้ออะไรต้องรีบซื้อให้ ดีกว่าไปซื้อแล้ววางไว้ข้างโรงศพ จริงไหมคะทุกคน
ขอให้ทุกคนมีความสุขในเทศกาลวันคริสมาร์ตกันนะคะ ขอให้สมหวังในสิ่งที่หวังไว้ทุกอย่างเลยนะคะ
Merry X mas จ้า
