คงจะมีช่วงชีวิตที่หลายต่อหลายคน ถามประโยคนี้กับตัวเองบ่อยครั้ง คงไม่มีสักคนที่ไม่มีช่วงเวลาเหล่านั้น บางทีก็อดสงสัยว่าพวกนก หมา แมว ไก่กา มีความรู้สึกแบบนี้กันบ้างไหมนะ หรือสัตว์พวกนั้นอาจจะไม่ต่างกับคนเรา เราเชื่อว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนเช่นกัน แตกต่างก็ตรงที่ หากเป็นนก เราคงบินไปไหนต่อไหนได้ ไม่ว่าจะบินสูงแค่ไหนก็ยังบินได้บิน มีอิสระที่จะบิน
แต่เราก็ไม่รู้รายละเอียดข้อจำกัดของนกว่าเป็นยังไง หากบินสูงขึ้น ลมต้านก็จะแรงขึ้นหรือเปล่า อากาศจะหนาวเย็นขึ้นไปอีกหรือเปล่า จะยังบินได้ไหมถ้าเป็นแบบนั้น เราไม่รู้ได้เลยเพราะเราไม่ใช่นก!
แรงบันดาลใจ พลังงานที่เคยมีมันหายไปไหนหมด… มีบางช่วงเวลาที่อยากนอนอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องกินข้าว ไม่ต้องอาบน้ำ นอนแบบโง่ๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบไร้จุดหมาย เคยรู้สึกเหมือนเป็นคนป่วยแต่ไม่ใช่ ไม่ได้ป่วย ไม่ได้อกหัก ไม่ได้เป็นอะไร หรือหลอกตัวเองอยู่กันแน่ อาการแบบนี้ หากเป็นกำลังเป็นที่แน่ๆเลย มันไม่ใช่ผลดีกับตัวเองนะ เหมือนตัวเราไม่มี Self-Disclipine ไม่มีระเบียบวินัยพอ

ชีวิตคนเรามันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ หากเรามีเป้าหมายที่อยากทำ แล้วเกิดความรู้สึกนี้ ที่อยากอยู่เฉยๆไม่อยากทำงาน ไม่อยากทำอะไร มันไม่ได้ จะคิดแค่เบื่อไม่ได้ มันต้องสานต่อ มันต้องทำถ้าอยากให้สิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าหมายเอาไว้ สำเร็จเราต้องลุกขึ้นมาทำมันต่อนะ บางสิ่งที่ไม่อยากทำก็ต้องทำ จะมาคิดจะทำแค่ตอนที่อยากทำมันไม่ใช่
เราเลยต้องมาหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจและ Stay Motivated เพื่อที่เราจะได้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ไปอ่านเจอมาหลายบทความมากๆ ว่าทำยังไงจะมีแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งเราฝันไว้เสมอ แต่อ่านก็แล้ว ฟังอะไรๆก็แล้วหากว่าเราไม่ลงมือทำ ไม่ตั้งใจที่ทำยังไงสิ่งที่อ่านมามันก็เป็นศูนย์แหล่ะ เคยได้ยินไหมว่ารู้หมดแต่ทำไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องมาแก้ที่ตัวเราแล้วล่ะ ต้องมามองตัวเองว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น สาเหตุมันมาจากตรงไหน
ขั้นตอนที่จะอยู่อย่างคนที่มีพลัง มีแรงบันดาลใจ มีดังนี้ ที่เราตั้งใจเขียนรวบรวมมาให้อ่านกัน
1.ตั้งเป้าหมายใหม่ หาเป้าหมาย ถ้าหากเราใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ เราต้องกลับมาถามตัวเราเองแล้วว่าตัวเราต้องการอะไรในชีวิต แล้วก็ตั้งเป้าหมายว่าเราต้องการให้เป้าหมายของเราสำเร็จตอนไหน ต้องใช้เวลากี่เดือน กี่ปี ต้องทำยังไงบ้าง เพื่อเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นๆ

เราอาจจะทำเป็นสมุดบันทึกเป้าหมายของเราหรือทำเป็น Vision board ของเราเองก็ได้
2.จดเหตุผลที่เราต้องบรรลุเป้าหมายนั้น ว่าทำไมเราถึงอยากทำมันให้สำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น บางคนต้องการที่จะเป็นคนที่นอนตื่นเช้าขึ้น อยากที่จะตื่นตีห้าทุกวัน เราก็ต้องเขียนเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากทำมันล่ะ
3.แบ่งเป้าหมายออกเป็นสัดส่วน ว่าอันไหนที่เราต้องทำให้สำเร็จก่อน เพราะบางคนมีเป้าหมายในชีวิตยาวเป็น 4-5 กระดาษ A4 เลยทีเดียว เราแบ่งสัดส่วนว่าอันไหนเราควรทำให้สำเร็จก่อน เรียงลำดับความสำคัญของเป้าหมาย
4.มีกลยุทธ์และวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ มีการเตรียมการและเตรียมตัวอย่างดี หรือเราต้องแผนสำรองไว้ตลอดว่าหากทำแบบนี้แล้วไม่ได้ผล เราจะทำยังไงต่อไปได้
5.หาคนช่วยให้ถูกจุด Stay with the right people เราต้องหาความช่วยเหลือ หรืออยู่กับคนที่มีความสามารถหรือเชียวชาญในสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จ อยู่กับคนที่ใช่ดีกว่าอยู่กับคนที่เก่ง คนเราบางครั้งพยายามมองหาแต่คนที่เก่ง แต่คนที่เชียวชาญในงานนั้นๆเฉพาะอย่างจะทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าแน่นอน
6.หากรู้สึกท้อแท้หมดหวังอีกครั้ง ต้องกลับไปอ่านสมุดที่เราจดเหตุผลไว้ ว่าทำไมเราถึงต้องทำต่อ ต้องเตือนตัวเองเสมอ
7.ให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้าง Don’t be too hard on yourself แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องรู้จักพักผ่อนอย่างพอประมาณ บางครั้งพักผ่อนเยอะจนกลายเป็นคนขี้เกียจไปเลย เราต้องหาความพอดี หาลิมิตให้กับตัวเองด้วย คนส่วนมากกำลังประสบปัญหาแบบนี้กันทั้งนั้นอ่ะ ขนาดตัวเราเองก็ยังเคยเป็น
8.อ่านและฟังเรื่องราวของผู้ประสบความสำเร็จเยอะๆ และอยู่กับคนที่ระดับพลังงานเดียวกันกับเรา พวกเขาเหล่านั้นจะให้แต่พลังงานดีๆกับเรา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ถูกเสมอ ที่เขาพูดกันว่า อยู่กับคนแบบไหนจะเป็นคนแบบนั้น อยู่กับคนขยัน เขาก็จะขยันตลอด ทำโน่นทำนี่ไม่หยุด แต่อยู่กับคนขี้เกลียจ เขาคงไม่พาเราทำอะไรเลย อาจจะพูดแต่เรื่องลบๆและพาเรานอนเล่นทั้งวันก็ได้ คนที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยจึงสำคัญมากๆ หากรู้สึกว่าคนเหล่านั้นเราอยู่ด้วยแล้ว ไม่ได้ส่งผลดีกับตัวเราเลย มันก็ไม่ผิดที่เราควรตัดคนเหล่านั้นออกจากชีวิตเราไปค่ะ
คนเราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ที่เหมาะสมให้กับตัวเองค่ะ
9.เติมแรงบันดาลใจจากคนที่เรารักเสมอ จากครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ของเรา เราเชื่อว่าครอบครัวคือแรงบันดาลใจ ที่สามารถทำให้เราลุกขึ้นมาจากความท้อแท้ได้เสมอ สู้ๆ
