บ้านไหนดีกว่า
https://pixabay.com/photos/woman-man-child-couple-parent-3602245/

เปรียบเทียบครอบครัวอุปถัมภ์ระหว่างที่เดนมาร์กกับที่เนเธอร์แลนด์ในฐานะการเป็นออแพร์

0 Shares
0
0
0

วันนี้มาเปรียบเทียบการเป็นออแพร์ทั้ง 2 บ้านและมาแชร์ว่าบ้านไหนที่เราชอบมากกว่ากัน

บ้านที่ประเทศเดนมาร์ก

ครอบครัวที่เดนมาร์กดูแลเด็ก 3 คน เป็นผู้ชายหมดเลยตอนนั้นน้องคนเล็กอายุ 2 ขวบ คนที่ 2 อายุ 6 ขวบและคนที่ 3 อายุ 9 ขวบ พ่อแม่ทำงานบริษัททั้งสองคน เริ่มงานเป็นช่วง ชั่วโมงการทำงานคือ 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

เริ่มงานตอนเช้าตรู่คือประมาณ 6.20 เตรียมอาหารให้เด็กๆ ช่วยแต่งตัวน้องๆ พาน้องๆทานข้าว เสร็จก็ประมาณ 7.30-7.45 น้องๆไปเรียน พ่อแม่ไปขับรถไปส่งลูก 2 คนไปโรงเรียน เราจะรับผิดชอบไปรับไปส่งน้องคนเล็ก แต่ก็ไม่ทุกวันแล้วแต่วันค่ะ หลังจากไปส่งน้องเราก็มาทำงานบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ดูดฝุ่น ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ คือแล้วแต่วันว่าวันนี้เราจะทำอะไร พอทำเสร็จประมาณ 10 โมงเช้าก็เตรียมตัวไปเรียนภาษาเดนิชค่ะ 

เราก็ไปเรียนภาษาเดนิช 3 วันต่ออาทิตย์ เรียนประมาณครั้งละ 3-4 ชั่วโมง ทำแบบนี้ประมาณเกือบ 1 ปีกว่าค่ะ ตอนที่อยู่บ้านที่เดนมาร์กก็มีไป Family trip กับโฮสต์ที่สวีเดนกับเกาะฟาโรห์อยู่ประมาณ 3 ครั้งค่ะ ก็ไปช่วยดูน้อง

ครอบครัวนี้คือเสียงดัง สนุก วุ่นวายหน่อย งานหนักกว่าเยอะแต่มันก็สนุกไปอีกแบบในสไตล์เดนิส คือเราพูดภาษาเดนิชกับน้องๆได้ คือพื้นฐานได้หมดแล้วตอนนั้นก็คือคุยกันรู้เรื่องอ่ะ แล้วตอนนั้นเจ้าตัวเล็กคือแสบมากๆจ้า ดื้อสุดในบ้านแล้ว ตอนไหนพ่อแม่ให้ Babysit ตอนเย็นก็คือจะวุ่นมาก เพราะจะกล่อมน้องคนเล็กให้นอนก่อน แต่ปกติน้องคนเล็กก็นอนง่ายสุดแล้ว คนกลางนี่จะยากหน่อยต้องไปนอน ไปเปิดเทปให้ฟังด้วย 

เปรียบเทียบครอบครัวอุปถัมภ์ระหว่างที่เดนมาร์กับที่เนเธอร์แลนด์ในฐานะการเป็นออแพร์
https://pixabay.com/photos/family-mom-and-daughter-baby-girl-1848957/

ถ้าหากเป็นเวลาปกติก็คือตอนเลิกงานพ่อแม่ก็ไปรับลูกเขามาเอง บางครั้งเขาก็ไปรับมาทั้ง 3 คน กลับมาก็จะช่วยกันทำอาหาร ส่วนมากโฮสต์พ่อจะทำอาหารเก่งกว่าโฮสต์แม่ แต่ครอบนี้ก็คือเฉลี่ยๆกัน ช่วยเหลือกันทำ ช่วงเย็น พอเสร็จเราก็ทำความสะอาดโต๊ะปกติ แต่ทำงานบ้านนี้คือไม่ได้หยุด 2 วัน ทุกอาทิตย์ แต่ก็ไม่ได้ทำงานทุกเสาร์ อาทิตย์ แต่ก็เป็นไปตามข้อกำหนดของออแพร์เดนมาร์กคือหยุดวันเสาร์ครึ่งวัน และวันอาทิตย์ 1 วัน แต่ถ้าบ้านไหนโชคดีก็หยุด 2 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันตั้งแต่ตอนแรกของเราว่าตกลงกับโฮสต์ว่ายังไง พอดีตกลงกับโฮสต์มาแบบนี้ แต่ก็คือไม่มีใครอยากทำงานหรอกวันเสาร์ ใครจะอยากทำจริงไหมเหมือนมันไม่ได้หยุดได้เต็มที่อ่ะ

แต่หากวันเสาร์ไหนที่ได้ทำงาน บางครั้งก็ตื่นสายได้ พ่อแม่จะเรียกใช้งานหลังจาก 10 โมงเช้าเพราะเขารู้เวลาตื่นนอนของเรา เขาอาจจะให้ช่วยดูน้องเพราะเขามีธุระไปซื้อของ ไปเจอเพื่อนข้างนอก อะไรก็ว่าไป แล้วแต่ธุระ ส่วนเรื่องอาหารไทย เด็กบ้านนี้ไม่ชอบอาหารไทย ไม่ชอบกินข้าว อาหารที่บ้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเดนิส อาหารอิตาเลียน พวกพาสต้านั่นแหล่ะ น้องคนกลางก็มีปัญหาการกิน บางวันนางก็ไม่กินอะไรเลย กินแปลกๆ เพราะน้องมีไตข้างเดียว พัฒนาการช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป ยากประมาณนึง แต่พอดูแลกันไปก็รักคนนี้มากเหมือนกัน เพราะใช้เวลากับคนกลางเยอะมาก ก็ผูกพันกัน 

เปรียบเทียบครอบครัวอุปถัมภ์ระหว่างที่เดนมาร์กับที่เนเธอร์แลนด์ในฐานะการเป็นออแพร์
Photo by Robert Fisk on Pexels.com

ส่วนเรื่องอาหารการกินของเราเองนั้น เราต้องจด List ที่เราอยากกิน อยากทำให้แม่ เพราะบางทีเค้าก็สั่งจากแอปให้มาส่งที่บ้าน เพราะส่วนมากโฮสต์บ้านนี้ไม่ค่อยมีเวลาหรอก หรือถ้าเขาจะไปซุปเปอร์ บางครั้งเราก็ขอไปด้วยได้ ไปซื้อของด้วย 

ส่วนเรื่องการดูแล เอาใจใส่จากโฮสต์บ้านที่เดนมาร์กก็ถือว่าดี ตอนวันคริสมาต แม่พาไปดูหนัง ช้อปปิ้งกัน ให้ของขวัญเป็นการใช้เวลาอยู่ด้วยกันตามประสาผู้หญิง โฮสต์ก็ซื้อเสื้อกันหนาวให้ 1 ตัวรู้สึกตัวละประมาณ 700 dkk หรืออะไรนี่แหล่ะ และก็ไปทานซูชิกัน 2 คน เมาส์มอยกันก็ดีนะ อบอุ่นดี ส่วนวันเกิดเรา ทางโฮสต์ก็จัดงานวันเกิดให้เลย ทำ Cake ทำอาหารแล้วให้เงินและช่อดอกไม้ในวันเกิด แต่จำนวนเงินอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับบ้านที่เนเธอร์แลนด์นะ 5555

ตอนกลับประเทศไทย ทางโฮสต์ไม่ได้ให้ของขวัญพิเศษอะไร มีแค่โฮสต์พ่อไปส่งที่สนามบิน เพราะตอนนั้นโฮสต์แม่คลอดลูกอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วเพิ่งกลับมาบ้าน อาการไม่ค่อยโอเค หลังจากการกลับมาประเทศไทยก็ติดต่อกันทางข้อความแต่ไม่ได้วิดีโอคอลหาเลย ไม่รู้ดิบ้านนี้ก็ดูยุ่งๆอ่ะเนอะ พอปี 2019 ก็มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเด็กๆแต่เจ้าตัวเล็กจำเราไม่ได้แล้ว น่าน้อยใจเนอะ น้องลืมแล้ว แต่ว่าอีก 2 คนยังจำเราได้แม่นอยู่จ้า 

แต่คอนเฟิร์มว่างานหนักมากจริงๆเพราะต้องทำงานบ้าน 5 วันเลย ประเทศเดนมาร์กคือออแพร์เน้นการทำงานเลยแหล่ะ แต่ก็แล้วแต่เราแบ่งอ่ะนะ บ้านหลังใหญ่ด้วย เป็นบ้าน 2 ชั้นเหมือนคฤหาสน์น่ะแหล่ะ อีกอย่างหนึ่งก็คือที่บ้านนี้คือเขาจะเลี้ยงลูกสบายๆไม่ค่อย เคร่งเท่าไหร่เลย มีวันที่แบบให้กินลูกอม ของหวานอะไรด้วย คือออกจะสปอย์ แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ คือเขากล้าให้ลูกลุยๆ ก็เป็นเพราะลูกผู้ชายหมดเนอะ การเลี้ยงเลยเป็นแบบเดียวกัน

เปรียบเทียบครอบครัวอุปถัมภ์ระหว่างที่เดนมาร์กับที่เนเธอร์แลนด์ในฐานะการเป็นออแพร์
https://pixabay.com/photos/street-art-art-painting-4004985/

เปรียบเทียบกับบ้านที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ครอบครัวที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ น่าจะเคยเล่าไปแล้ว แม่เป็นคนโครเอเชีย เติบโตเรียน ทำงานที่เยอรมันนีแล้วย้ายมาประจำสำนักงานที่เนเธอร์แลนด์ มีลูกสาวคนเดียว ตอนที่ไปน้องอายุประมาณ ขวบกว่าๆ พ่อเป็นคนบริติช จากเวลส์ ตารางการทำงานคือไม่โหดเลย ตื่นชิวๆ 7.20 เริ่มทำงาน แม่ออกจากบ้านประมาณ 7.30 แม่ไปทำงาน เรารับช่วงต่อแต่งตัว ป้อนข้าวน้อง พาน้องไปส่งที่เนอสเซอรี่ประมาณนั้น ก่อนจะไปส่งน้อง ก็ต้องเล่นกับนางก่อน จนประมาณ 8.30-8.45 ก็พาน้องไปส่งเสร็จก็ไปซื้อของไว้ทำกับข้าวต่อ เสร็จจากซื้อของประมาณ 9.30 ก็เสร็จงาน เราก็กินข้าว ทำธุระส่วนตัวก็คือรอจนเวลา 16.30ก็เตรียมตัวไปรับน้อง ตอนกลางวันก็คือว่างทั้งวัน ถ้าไม่ว่างก็อาจจะเพราะว่าน้องไม่สบาย ต้องอยู่บ้าน เราก็ต้องอยู่ดูทั้งวันเลยนะ เพราะแม่ก็ต้องทำงาน แต่ถ้าแม่อยู่บ้านแม่ก็จะช่วยมาสับเปลี่ยนให้เราพักบ้าง 

ช่วงวันเย็นวันพฤหัสบดีพ่อก็จะกลับมาจากทำงานที่เยอรมนีแล้ว ตอนเช้าของวันศุกร์เราก็ชิวได้อีก รอไปส่งน้องอย่างเดียวเลยตอน 8.45 แล้วก็รอไปรับน้องกลับมาอาบน้ำ ถ้าพ่อแม่อยู่พ่อแม่ก็อยากมีส่วนร่วมอาบน้ำให้น้องด้วย เราก็ช่วยด้วย ถ้าพ่อแม่ต้องการ ปกติคือแค่ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์อาจจะมี Babysit ช่วงเย็นวันศุกร์บ้างหากพ่อแม่ขออนุญาติไปเดท เราก็โอเค ตราบใดที่เราได้หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ อันนี้คือไม่มีปัญหา แต่แม่จะให้เงินพิเศษเอง หากรู้สึกว่าเราทำงานเกิน หรืออยากให้เฉยๆก็ให้ เครื่องสำอาง สกินแคร์คือเพียบ เราก็บ่นๆว่าหน้าเราไม่สวย โน่นนั่นนี่ นางก็จะเอามาให้แล้ว ตอนแรกที่เข้าไปอยู่บ้านนี้คือรู้สึกว่าแม่เป็นคนเยอะมาก 

ตอนแรกนี่คือบ่นกับเพื่อนทุกวัน ไม่เคยเห็นใครเยอะขนาดนี้ในชีวิต น้องจะเป็นเด็กที่มีขี้มูก มอมแมมไม่ได้นะจ๊ะ เหมือนบ้านที่เดนมาร์กไม่ได้เด็ดขาดจ้า ก็เข้าใจว่าเป็นเด็กผู้ชาย พ่อแม่ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ แต่บ้านนี้คือเลี้ยงลูกแบบเจ้าหญิงดีๆนี่เอง ตอนแรกแม่คือเยอะมาก ส่งข้อความสั่งงานเราที มาเป็นเรียงความยาวหน้ากระดาษ A4 คือเยอะมาก ช่วงแรกช็อคมาก แต่พออยู่ๆไปก็เริ่มชิน เริ่มเข้าใจในตัวนางผู้เป็นแม่ แต่ตอนแรกเป็นช่วงปรับตัว พอหลังจากเราอยู่กับนางไปผ่านไปสักระยะนึง 1-3 เดือน เหมือนนางไว้ใจก็ให้เราตัดสินใจเกือบทุกอย่าง แล้วแบบคือเหมือนเราได้ใจแม่มาเต็มๆเลยนะ เหมือนช่วงหลังมานี้สนิทกันเลย แม่จะเล่าให้ฟังหมดเรื่องส่วนตัว เรื่องเพื่อน เรื่องเจอพ่อครั้งแรกที่ไหน เจอกันได้ยังไง เรื่องความรักของนางคือกุ๊กกิ๊กมาก นางเล่าให้ฟังหมดเลย แฟนเก่านางอะไรแบบนี้คือรู้หมด

เราก็ชอบทำอาหารให้แม่ทาน ชอบทำเผื่อ ชอบทำอาหารให้ทุกคนทาน เหมือนทั้งบ้านก็ชอบอาหารที่เราทำด้วย เหมือนมันลงตัวทุกอย่างน้องก็เป็นเด็กเลี้ยงง่าย จะยากช่วงแรกๆที่ปรับตัว น้องเป็นเด็กที่กินได้ทุกอย่าง ชอบกินข้าว ข้าวผัดนี่ยิ่งชอบมากจ้า นางชอบกินข้าว ข้าวสุกเฉยๆก็กินได้เช่นกัน จนแม่ต้องซื้อหม้อหุงข้าวให้เราทำอาหารหรืออะไรที่เกี่ยวกับข้าว คือน้องชอบมาก แต่น้องก็ชอบกินทุกอย่างนั่นแหล่ะ พาสต้าก็ชอบ โชคดีมากที่น้องไม่เลือกอาหารเท่าไหร่ ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากอีกเรื่องหนึ่งเพราะว่า ถ้าหากเด็กบ้านไหนมีปัญหาเรื่องอาหารการกินคือ เราก็มีปัญหาแล้วอ่ะ ไม่รู้จะทำอะไรให้ทาน จริงไหม

เปรียบเทียบครอบครัวอุปถัมภ์ระหว่างที่เดนมาร์กับที่เนเธอร์แลนด์ในฐานะการเป็นออแพร์
https://pixabay.com/photos/amsterdam-europe-hiking-walk-988040/

บ้านนี้ช่วงคริสมาตให้ของขวัญน่าจะเป็นเงินกับเครื่องสำอาง เครื่องแต่งหน้า แต่เครื่องสำอางพวกคอลแล็คชั่นใหม่ๆ คือมีซื้อให้ตลอดจ้า มีซื้อดอกไม้ให้เกือบทุกอาทิตย์ ไปไหนก็คิดถึงเราตลอด วันหยุดยังหาซื้ออะไรที่เราชอบทานมาให้ เคยไปเที่ยวด้วย 1 ทริปที่เยอรมนี พักโรงแรมเลิศอยู่ ส่วนวันเกิดเราโฮสต์พาไปเที่ยวแล้วทานข้าวนอกบ้าน กลับมาก็มีแค้กและสั่งพิซซ่าน่าจะได้ จำไม่ได้ว่ากินเค้กก่อนหรือพิซซ่า คือของขวัญวันเกิดได้เงินเยอะมาก ไม่คิดว่าโฮสต์จะให้เงินเยอะ ก่อนกลับไทยโฮสต์ยังพาไปเลี้ยงส่งอีก ของขวัญที่ได้ตอนกลับไทยคือเยอะมาก ทั้งของกิน ของที่ระลึก รูปน้อง รูปเราโฮสต์จัดการให้หมด ได้เงินเป็นของขวัญอีก แต่ของขวัญที่ได้คือเยอะมาก จนล้นกระเป๋า โฮสต์ไม่รู้ไปเตรียมไว้ตอนไหน ประทับใจมาก น้ำตาซึมจ้า

ตอนกลับไทยไปส่งทั้งบ้านเลยจ้า โฮสต์ร้องไห้ เราร้องไห้ น้องยังไม่รู้เรื่อง หลังจากกลับมาได้ 2-3 วัน โฮสต์ก็วิดีโอคอลมาหากับน้อง คือหลังจากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยๆและยังมีวิดีโอคอลหา หากเราว่าง แต่ส่งข้อความหากันตลอด โฮสต์ก็มาส่องอินสตาแกรมตลอดๆ 555 วันเกิดครบ 3 ขวบของน้อง ก็ส่งหนังสือให้น้องถึงบ้านจ้า 

ส่วนความรู้สึกว่าชอบบ้านไหนมากกว่ากัน มันตอบยากมากเพราะแต่ละปี มันคนละช่วงความรู้สึกแต่ว่าบ้านที่เนเธอร์แลนด์สบายกว่าเยอะมาก โฮสต์ก็เอาใจเก่ง ยังไงดี จะว่าบ้านที่เดนมาร์กไม่เอาใจก็คงไม่ถูกเพราะบ้านที่เดนมาร์กก็จัดงานวันเกิดใหญ่ให้เว่อร์วังมาก และแม่ก็ให้ของขวัญวันคริสมาร์ตด้วยการไปใช้เวลาด้วยกัน แต่ก็แอบน้อยใจที่เด็กๆและพ่อแม่บ้านที่เดนมาร์กไม่ได้ไปส่งตอนกลับไทยด้วยกันทั้งหมด

ตอบยากแต่ก็ต้องเลือกตอบบ้านที่อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์อ่ะนะ อบอุ่นกว่าในความรู้สึก แต่ก็รักและผูกพันกับบ้านที่เดนมาร์กเหมือนเดิมนะ เพราะเราอยู่เดนมาร์กนานกว่าอยู่เนเธอร์แลนด์จ้า แต่เน้นๆรักเด็กๆเหมือนเดิม ถ้ามีโอกาสก็ยังอยากกลับไปเยี่ยมเด็กๆเสมอค่ะ 

ขอให้คนที่กำลังหาบ้านอยู่ขอให้โชคดีนะคะ ได้บ้านที่ประเสริฐๆจ้า

เปรียบเทียบครอบครัวอุปถัมภ์ระหว่างที่เดนมาร์กับที่เนเธอร์แลนด์ในฐานะการเป็นออแพร์
https://pixabay.com/photos/bike-bicycle-cycle-parking-many-2669639/
0 Shares
ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *