หลังจากที่ป่วยนาน ไม่ได้เขียนเป็นอาทิตย์วันนี้อยากมาเล่าเรื่องระหว่างคนดัตซ์กับคนเดนิชเราเคยอยู่เดนมาร์กเกือบสองปี คิดว่ารู้จักคนเดนิชเป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ที่ไม่รู้จักเท่าไหร่ก็คือคนดัตซ์เพราะโฮสบ้านเราที่เราทำงานให้เป็นครอบครัวอินเตอร์มากเพราะโฮสแม่เป็นคนโครเอเชียแต่เติบโตที่เยอรมนีก็เหมือนเป็นคนเยอรมัน นิสัยใจคอจะเป็นคนเยอรมันเลย ส่วนโฮสพ่อเป็นคนบริทิชจำไม่ได้แล้วว่าเมืองอะไร แต่ถือพาสปอร์ตของบริทิชนั่นแหล่ะ
แต่จากการสัมผัสกับคนดัตซ์อย่างผิวเผินนะคะ เราก็รู้จักกับคนดัตซ์บ้าง โฮสเล่าให้ฟังบ้าง เพื่อนเล่าบ้าง แล้วได้ข้อคิดข้อเปรียบเทียบที่แตกต่างจากคนเดนิชอย่างสิ้นเชือง เพื่อนสาวของเราเคยเล่าให้ฟังว่าคนดัตซ์เป็นคนที่รู้จักการใช้เงินมาก หรือบางคนอาจจะเรียกว่าขี้เหนียวก็ว่าได้แต่คำว่าขี้เหนียวกับการรู้จักการใช้เงินก็เป็นคำที่แตกต่างกัน แต่คนส่วนใหญ่ก็เหมารวมว่าเป็นความหมายเดียวกัน โฮสเล่าให้ฟังว่าคนดัตซ์จะเป็นคนแปลกๆ พวกเขาบางทีจะเสียเงินในสิ่งที่ไม่ควรเสีย แต่บางอย่างพวกเขาก็จะไม่ยอมจ่ายซึ่งโฮสบอกว่าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

เมือพูดถึงคนเดนิชหรือประเทศเดนมาร์กเราจะนึกถึงบรรยากาศหรือความรู้สึกที่อบอุ่นเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองมันจะเป็นแบบ Cozy อ่ะความรู้สึกเรานะ แต่ถ้าพูดถึงคนดัตซ์เรานึกถึงความขี้เหนียวฮ่าๆ เอาฮานะ นึกถึงดอกทิวลิปถึงแม้จะยังไม่มีให้ได้ชมตอนนี้ก็ตาม เรายังต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของดัตซ์อีกมากอาจจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เราเขียนตอนนี้นะ
1.คนเดนิชจะเป็นคนลักษณะพูดตรงไปตรงมาแต่คำพูดของคนเดนิชดูลื่นหู น่าฟังกว่าคนดัตซ์เราไม่รู้นะจากประสบการณ์ที่เจอคนดัตซ์พูดตรงแต่จะเป็นแบบอีกลักษณะหนึ่ง คนเดนิชจะขึ้นชื่อเรื่องพวกเขาเป็นคนซื่อสัตย์และจริงใจ
2.คนเดนิชเป็นคนใจกว้างและก็ใจดีเราว่าน่าจะใช้คำว่าใจดีน่าจะเหมาะสมที่สุด หากไปเดทหรือไปทานข้าวกับคนเดนิชครั้งแรกผู้ชายจะอาสาออกเอง ถึงเราจะเสนอตัวจ่ายแต่เค้าจะไม่ให้เราออกอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากเป็นผู้ชายดัตซ์คือต้องออกครึ่งต่อครึ่ง คือยังไงเราก็ต้องมีส่วนออกด้วย เราไม่ได้ว่าตรงนี้ไม่ดีนะแต่ไม่ค่อยเจอที่ต้องออกครึ่งต่อครึ่ง ที่อเมริกาเราก็ต้องออกเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้หมดทุกอย่างมันเท่าเทียมกันหมด
3.คนเดนิชจะเป็นคนที่ดูผ่อนคลายกว่า คนเดนิชจะไม่ค่อยตรึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดเหมือนคนดัตซ์ คนเดนิชเวลาทำงานเขาจะทำจริงๆแต่ Work Life balance ของคนเดนิชจะดีมากๆ รัฐบาลช่วยเหลือทุกอย่าง แต่คนเดนิชก็จ่ายภาษีหนักเหมือนกัน ส่วนคนดัตซ์ ต้องจ่ายภาษีเหมือนกัน 30% แต่ดูเหมือนคุณภาพชีวิตเขาจะไม่ได้ดีเท่ากับคนเดนิช นอกจากคุณภาพชีวิตของคนเดนิชที่ดีแล้วยังส่งผลให้คนเดนิชเป็นคนที่มีความสุขและผ่อนคลายอย่างที่เล่าไป และประเทศเดนมาร์กยังเป็นติดท้อปเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกหลายๆปี และยังอยู่ในอันดับอยู่ถึงแม้ว่าปีนี้จะตกเป็นของประเทศนอร์เวย์ที่ชิงอันดับหนึ่งไป ฮ่าๆ
4.คนดัตซ์ทำอะไรเร็วมากๆ จากการสังเกตพวกเขาจะทำทุกอย่างเร็วหมดแม้แต่การปั่นจักรยาน พวกเขาก็ปั่นไม่หยุด เวลาข้ามถนนให้ระวังดีๆเพราะจักรยานจะไม่หยุดให้เราข้าม ไม่เหมือนที่เดนมาร์กถึงคนเดนิชจะรีบแต่ถ้าเห็นคนจะข้ามถนนคนเดนิชก็ยังจะหยุดให้เราข้ามนะ จากประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ ขนาดโฮสของเราอยู่ประเทศเยอรมนีมาก็ยังบอกว่าคนดัตซ์จะแปลกๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการแข่งขันที่สูงหรือเปล่า เพราะประเทศเนเธอร์แลนด์เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีนักธุรกิจอยู่เยอะ เหมือนพวก Startup entreprenur เริ่มธุรกิจอยู่เยอะที่สุด

รัฐบาลจะสนับสนุนนักธุรกิจรุ่นใหม่เหมือนหากเราเป็น expat เราก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์จ่ายภาษีน้อยกว่า เพราะรัฐบาลช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหาอ่านเพิ่มเติมได้จากในอินเตอร์เนตนะคะ เป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าเราก็ไม่ทราบเหมือนกัน ต้องศึกษาเพิ่มเติมและต้องมีแฟนเป็นคนดัตซ์จึงจะรู้สินะ แต่ประเทศเดนมาร์กก็ขึ้นชื่อเรื่อง Startup เหมือนกันนะไม่ใช่ไม่เด่น คนเดนิชเก่งมากแต่น่าจะเน้นไปทางบริษัทยาหรือพวกเครื่องมือแพทย์มากกว่า
5.คนเดนิชจะอ่อนโยนกว่าคนดัตซ์ ตรงนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเอา Scale อะไรมาวัดแต่จากการสังเกตจากภาษาและการใช้คำพูดอย่างที่เล่าไปในข้อ 1 คำพูดของคนเดนิชจะดูจริงใจในแบบที่น่าฟัง หรือใครมีประสบการณ์แบบไหนช่วยมาเล่าให้เราฟังต่อที
6.หน่วยงานราชการประเทศเนเธอร์แลนด์ทำงานเร็วมากเปรียบเทียบกับหน่วยงานราชการของประเทศเดนมาร์ก ยกตัวอย่างการขอวีซ่ารอไปเถอะวีซ่า รอไป 3 เดือนแต่ของประเทศเนเธอร์แลนด์คือไม่เกิน 2 อาทิตย์คือรู้ผลวีซ่าแล้ว นี่คงจะเป็นข้อดีที่สุดที่เราได้สัมผัส
7.ภาษาเดนิชดูน่าฟังกว่าภาษาดัตซ์แน่นอนอยู่แล้วหรือว่าเราจะมีเลือดเดนิชเข้มไปหน่อย แต่ภาษาดัตซ์ภาษาเขียนบางอย่างยังคล้ายๆภาษาเดนิชอยู่บ้าง แต่ที่บ้านโฮสพูดเยอรมันกับลูกเราเลยมีความรู้สึกว่าเยอรมันคล้ายเดนิชหรือมันก็คล้ายกันทั้งสามภาษา แต่ก็ยังจะเรียนภาษาดัตซ์ติดตัวเอาไว้อยู่เหมือนกันเผื่อมีแฟนเป็นคนดัตซ์ฮ่าๆ ถึงมันจะไม่มีแรงบันดาลใจในการเรียนเลยก็ตามเดี๋ยวต้องไปหาแรงบันดาลใจในห้องเรียนแล้วกันเนอะ
อย่างไรก็ตามเราก็ยังไม่สามารถสรุปได้ทั้งหมดว่าทุกคนเป็นแบบที่เราคิด แต่ละคนมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและสังคมที่พวกเขาเหล่านั้นเติบโตมา จากที่เล่ามาทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราสัมผัสและประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ จึงอยากเล่าให้ฟัง และเก็บเป็นบันทึกของเรา เรายังต้องเรียนรู้อีกมากมายในเวลาที่เหลืออยู่และหวังว่าความรู้ใหม่ๆที่ได้รับมาจะช่วยพัฒนาและปรับปรุงให้เราก้าวไปอีกด้านและก้าวไปในด้านที่ดีขึ้นในทุกๆวันค่ะ ขอบคุณโอกาสที่เราวิ่งเข้าชน วิ่งคว้าทำให้มาถึงจุดนี้ จุดที่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างค่ะ เรายังไม่สรุปว่าคนดัตซ์เป็นแบบนั้นทั้งหมดขอย้ำเราคงต้องมาเขียนใหม่หลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับคนดัตซ์นานๆกว่านี้สินะ
