ทุกวันนี้เราเจอคำถามแบบนี้ อยู่หลายร้อยครั้ง เมื่อไหร่จะแต่งงาน เมื่อไหร่จะมีลูก เมื่อไหร่ล่ะ ถ้าตอบได้คงจะตอบไปแล้วนะ ทุกคนรอบข้างดูมีความเป็นห่วงเป็นใยกับสถานะของเราเหลือเกิน เราซาบซึ้งใจค่ะ จริงๆก็ไม่มีใคร อยากจะโสดไปตลอดชีวิตหรอกจริงไหม มีใครมั่ง อยากโสดไปจนตายบ้าง แต่ก็น่าจะมีนะ แต่อาจจะมีน้อย คนเราก็ต่างอยากมีคนที่เรารักกันทั้งนั้นแหล่ะค่ะ คนที่เราสามารถไว้ใจ เชื่อใจ อยากจะเดินร่วมทางกันไปให้จนสุดทาง
ไม่มีใครอยากจะคบใครแล้วจบลงด้วยการเลิกกัน การแยกทางกันหรอก จริงไหม แต่เมื่อทุกๆอย่างมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราก็เอาแน่เอานอน กับอะไรไม่ได้ ขนาดการขึ้นของพระอาทิตย์เรายังไม่แน่ใจเลยว่าพระอาทิตย์จะขึ้นส่องฟ้าหรือเปล่า วันนี้ฝนจะตกไหม อากาศจะเป็นยังไง หรือวันนี้จะโดนอะไรบ้าง ปัญหาอะไรจะเข้ามา เราจะพร้อมรับมือไหวหรือเปล่า มันไม่เคยมีอะไรแน่นอนอยู่แล้วในชีวิตของเรา
เรารู้ว่าหลายๆคนกำลังโสด รวมไปถึงตัวเราด้วย และรวมถึงเพื่อนๆที่ไม่ว่าจะเพิ่งโสดป้ายแดง โสดมาสักระยะ โสดแล้วเบื่อมาก หรือว่ายังหาคนถูกใจไม่ได้ ไม่รู้จะทำอะไร ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองเลิกเพ้อ เลิกเวิ่นถึงรักเก่าๆที่เคยเกิดขึ้น ที่เคยมี เหมือนช่วงเวลานั้นมันตรึงตราใจมาก มันมีค่ามาก ทำยังไงก็หยุดคิดไม่ได้เลย คิดอยู่ตลอดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ทำไม ทำไม มันถึงไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้เลย ทำไมรักมันต้องพังด้วย เราเกิดคำถามต่างๆมากมายขึ้นมาในสมองของเรา
เรากลับไปคิดรื้อฟื้นถึงสิ่งที่เรากับเค้าเคยมี หรือเคยทำด้วยกัน เหมือนเราเอากล้องจุลทัศน์ส่องความผิดพลาดของเรา นึกภาพตอนเรียนวิทยาศาสตร์ตอนเรียนชีววิทยา ตอนที่คุณครูสอนใช้กล้องในห้องวิทย์ได้ป่ะ เราทำแบบนั้นเลย เราสงสัย เราอยากรู้ เราส่องเข้าไป ซูมไปเยอะจริงๆ เพื่อที่จะหารายละเอียดว่าอะไรเป็นต้นเหตุ อะไรที่เราควรปรับปรุงแก้ไข ในวันที่สายเกินไปแล้ว แล้วเราจะคิดโทษตัวเองอยู่เสมอๆ แล้วเราจะถามตัวเองว่า ทำไมเราต้องทำแบบนั้นด้วย ถ้าเราไม่ทำแบบนั้น เราคงไม่เลิกกันหรอก นั่นแหล่ะ สิ่งที่คุณคิดจริงไหม

เอาล่ะ เลิกคิด เรารู้ว่ามันยาก ที่ต้องเลิกคิด ใช่ไหม เราก็เป็นค่ะ แต่เอาอย่างนี้ไหม เราลองออกจากห้องวิทยาศาตร์ ลองปล่อยกล้องดู ไม่ซูมแล้ว ไม่ต้องอยากรู้เหตุผล ไม่ต้องไปขวานขวายหาคำตอบอีก ถ้าเค้าทิ้งเราไป มีคนอื่น ก็ไม่ต้องไปค้นดู Facebook แฟนใหม่เค้าแล้ว (ค้นดูก็ดีนะจะได้ตาสว่าง อ้าวตกลงยังไง)แต่ในอีกกรณีถ้าคุณทนไม่ได้ ก็ทำไปเลยถ้าคุณสบายใจก็ทำให้สุดไปเลยค่ะ แต่ตอนสุดท้ายเราก็จะมาคิดได้เองว่า เออ ที่ทำไปทั้งหมด นี่เพื่ออะไร เคยเป็น รู้และเข้าใจหัวอก คนโสดป้ายแดงดีค่ะ เอาจริงๆ คนโสดป้ายแดงนี่เก่งนะคะ สืบเก่งกว่า Sherlock holmes เปิด Case เอง จินตนาการเอง และเก่งกว่า FBI อีกจริงไหม ค้นไปเจอทุกอย่าง และสัญชาตญาณก็แรงด้วยค่ะ วิเคราะห์ได้แบบทะลุปรุโปร่ง เหตุการ์ณนี้ ตรงนั้นตรงนี้ โอ้โห ยอมเลยเก่งจริงๆ คนโสดป้ายแดง ดีไม่ย้อนยุคไปเป็นเมีย Sherlcok holmes ย้ายประตูบ้าน หรือแปลงร่างเป็น Dr.who ไปเลยก็มี ฮ่าๆ ไม่เครียดเนอะแซวเล่น เคยเป็นค่ะ
ผ่านไปสักระยะ คุณจะเริ่มดีขึ้นค่ะ แต่จะเริ่มดีขึ้นก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณเองล้วนๆนะคะ ไม่ใช่คนอื่นเลย ถ้าจิตใจเราแข้มเเข็งพอและกล้าที่จะเดินหน้าต่อไป กว่าคุณจะเข้มแข็ง คุณก็ลองหาอะไรทำในตอนที่คุณว่างดีไหมคะ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ทาง Girlsbossbabe มีอะไรที่อยากแนะนำให้คนโสดใช้ชีวิตโสดอย่างมีความสุข สนับสนุนให้คนโสดคิดถึงตัวเองเป็นอันดับแรกค่ะ
มาออกจากห้องวิทย์กันค่ะ ชีวิตเรามีอะไรให้ทำ ให้ใช้ตั้งเยอะแยะค่ะ วิธีทำให้เราเลิกใช้กล้องจุลทัศน์ค่ะ
1.จัดทริปไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆที่รัก ไปไหนไปกัน เมาหัวราน้ำ ก็เอาให้สุดไปเลย ผ่อนคลายกันไป แต่เมาแล้วไม่ควรขับรถไปไหนนะคะ ไม่ดีค่ะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ เมาแล้วเพ้ออยู่ห้องเนอะ พูดเลย พูดออกมา พูดเพ้อทั้งคืนเลย จัดไปเลย เที่ยวสถานที่ใหม่ๆกับเพื่อนๆมีคนคอยคุยด้วย และเราก็ได้เจอสิ่งเเวดล้อมใหม่ๆ ออกมาจากสิ่งแวดล้อมที่น่าเบื่อ ออกมาจากสิ่งเดิมๆที่เคยเห็นทุกวัน เลิกใช้กล้องซะ ไม่ส่อง ไม่สนใจมันเถอะ เพราะยังไงเค้าก็ออกจากชีวิตเราไปแล้ว เรามาโฟกัส การเที่ยวของเรา เพื่อนของเราและบุคคลที่อยู่ในชีิวิตเราตอนนี้ดีกว่าค่ะ
2.เลิกใช้ Social Media หรือว่าใช้ให้เป็นเวลา เอาหนังสือมาอ่านแทนดีไหมคะ บางทีเราใช้ Social อยู่ตลอดมันยิ่งทำให้เราฟุ้งซ่านค่ะ เพราะเราจะเช็คตลอด จะกดดูตลอด ยิ่งถ้าเลิกกันแล้วยังเป็นเพื่อนกันใน Facebook อยู่เราก็จะกดเข้าไปส่องเค้าอยู่ตลอด เพราะเราอยากรู้ว่าเค้าทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร ล่าสุดเค้าเช็คอินที่ไหน หรือเราก็จะคิดถ้าเค้าโพสภาพดีๆ ว่าทำไมเลิกกันกับเราเค้ายังมีความสุขได้ ทำไมเค้าไม่ทุกข์บ้างเลย เราจะคิดอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำ คือ ไม่ควรเป็นเพื่อนกันใน Facebook ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหว และเราควรอยู่ห่างโทรศัพท์เสียบ้าง ลองเดินเล่น ตอนเย็นๆแล้วถามใจตัวเองดู ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคุ้มกันแล้วหรอ บางทีการเดินเล่น คุยกับตัวเองจะทำให้เรารู้ใจตัวเองมากขึ้น จริงอยู่ว่าเราไม่สามารถตัดใจได้เร็วข้ามวัน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้นแหล่ะ

3.พัฒนาตัวเองในทุกๆด้าน ไม่อยากให้คิดว่าอกหักหรือโสดแล้วต้องหุ่นดี ต้องเก่ง ต้องสวย อะไรแบบนี้ คิดแบบนี้ดีกว่าไหม เราจะสวย จะเก่ง จะรักตัวเอง มีหรือไม่มีแฟน เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้ เราต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เราจะทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีคนดีๆเข้ามา เราจะไม่ปิดกั้นโอกาสของเรา คิดใหม่เนอะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวย ถ้าผู้ชายอ่านโพสนี้ก็อย่าหยุดพัฒนาตัวเองค่ะ
คนเราไม่ได้ดีทุกด้านมาตั้งแต่เกิด เราเคยพูดประโยคนี้บ่อยๆเพราะเราก็เริ่มต้นจากคนที่ไม่ได้เก่งอะไรเลย เราเคยติด 0 วิชาคณิตศาสตร์เพราะเราไม่ชอบเรียนคณิตศาสตร์ คนทุกคนไม่ได้เก่งแต่มันเกิดจากการพัฒนาตัวของเราเองทั้งนั้นค่ะ มีอะไรที่อยากเรียนเพิ่มก็ไปลงเรียนซะ เอาโฟกัสมาที่การพัฒนาตัวเองก่อน เรียนต่อเลย ปริญญาโท ปริญญาเอก ก็อย่าหยุด หรือจะเรียนเสริมทางด้านภาษาก็ดีไปอีกอย่าง นี่เราก็สนใจอยากจะเรียนปริญญาโทกับภาษาญี่ปุ่นต่อเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะอะไร แค่อยากทำให้ตัวเองภูมิใจค่ะ แต่ปริญญาโท ต้องเลื่อนไปก่อน เพราะยังมีงบไม่พอ ถ้ามีเมื่อไหร่เรียนแน่นอนค่ะ ฮ่าๆ

4.Hang out กับเพื่อนใหม่ๆ เราไม่ได้หมายความว่าให้เลิกคบกับเพื่อนเก่า แต่เราอยากให้คุณเจอ มุมมองใหม่ๆ บางทีเพื่อนเก่าก็ใจดี หรือพูดในมุมเดิมๆ เราต้องเปิดโลกกว้าง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ผู้คนใหม่ๆ ถ้าอยากเจอเพื่อนใหม่ๆ อยากให้ลองไปกลุ่มพวก Meetup หรือ Couchsurfing ดู แต่เราไม่ได้ใช้ Couchsurfing เท่าไหร่ ใช้ Meetup จะมีกลุ่มผู้คนที่มีความสนใจต่างๆเป็นกลุ่มจัด Event ให้เราไปเจอไปคุยกับเพื่อนใหม่ ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณสนใจเรื่อง ภาษาอังกฤษ หรือสนใจเรื่อง การทำเว็บไซต์ก็มีกลุ่มที่จัดงาน จัด Event พวกนี้อยู่ เราก็สมัครไปกับเค้าเลยค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ยกเว้นเราจ่ายพวกเครื่องดื่มของเราเอง เราต้องดูแลตัวเองเนอะในจุดๆนี้
5.เลิกฟังเพลงอกหักซะ เชื่อเถอะยิ่งฟัง ยิ่งเพ้อ เลิกเถอะมาฟัง Hiphop pop dance ดีกว่าไหม เลิกใส่หูฟัง ฟังเพลงเศร้าโหนรถไฟฟ้า BTS หรือเบียดๆกันใน Airport link ยังใส่หูฟัง ฟังเพลงเศร้าอยู่ ระวังโดนขโมยกระเป๋าเงินนะระหว่างที่เป็น นางเอกเอ็มวี อยู่เหม่อๆ ขอเตือนเลิกเถอะ มันไม่สวย ไม่เท่ห์เลยจริงๆ

6.เปิดบล็อก/เว็บไซต์ของตัวเองเลย ถ้าคุณชอบ ระบายความรู้สึก ชอบเล่าประสบการณ์ แชร์ประสบการณ์ ตั้งกระทู้ในพันทิปก็ได้ค่ะ แชร์เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เค้ากำลังเจอปัญหาเหมือนคุณ การแบ่งปันความรู้ให้แก่คนอื่นเป็นสิ่งดีมากๆเลยค่ะ ควรทำ การทำบล็อกทำให้เรามีพื้นที่เป็นของตัวเราเอง ที่ไม่มีใครมาว่าเราได้ ก็เปรียบเสมือนการมีบริษัทเป็นของตัวเอง พื้นที่นี่เป็นของเรา เราเป็นคนจ่ายค่า Web hosting และเราเป็นคนสร้างเนื้อหาขึ้นมา การสร้างบล็อกหรือเว็บไซต์จะทำให้เราโตขึ้นในหลายๆด้าน จริงๆค่ะไม่เชื่อลองทำดูค่ะ ที่สำคัญได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เผลอๆสร้างรายได้ให้กับตัวคุณเองแบบ Passive income ถ้าจริงจังกับมันค่ะ
7.เปลี่ยน Mindset ของเราซะ เอาจริงๆเราเลือกที่จะมองแง่ดีๆของการเป็นโสด ถึงเราจะแก่ อ้าว ไม่ได้ๆ เราไม่แก่ ถึงจะแก่ที่อายุ เราก็ไม่ควรคิดว่าเราแก่ นะคะ เอาจริงๆโสดนี่ดีนะ มีเวลาเป็นของตัวเองเยอะมากจริงๆค่ะ มีเวลาให้เพื่อนๆ ใครอยากจะชวนไปไหน เที่ยวที่ใดได้หมด อยากจะทำอะไรเราก็ได้ทำไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น กังวลเรื่องของตัวเองพอค่ะ คุณคงไม่รู้ว่ามีครอบครัวมันยากยังไง ยิ่งถ้ามีลูกด้วย ยิ่งช่วงแรกๆที่ลูกยังไม่โต นี่เด็กเล็กๆนี่ชอบตื่นนอนกลางดึกนะจะบอกให้ ขอให้ไปดูวิดิโอของคุณ Michael Mcintyre ขำๆนะคะ

สุดท้ายนี้ เราเชื่อว่าสักวัน Universe จะส่งคนที่คู่ควรมาให้คุณ แต่ช่วงเวลาที่คุณเป็นโสด คุณควรจะให้เวลาตัวของคุณเอง ได้ใช้ชีวิตในแบบของคุณ ได้ให้เวลาตัวคุณเอง ให้คุณได้ค้นหาตัวตนของคุณเอง แต่เมื่อเวลาที่มีใครสักคนเข้ามาในชีวิตของคุณ คุณก็ไม่ควรปิดกั้นโอกาสนั้นนะคะ อย่างที่บอก เป็นโสดให้มีความสุขนะคะ
สำหรับคนโสดป้ายแดง อาจจะมีบางช่วงเวลาที่คุณเพ้อว่าทำไมคุณถึงเป็นโสด ทำไมไม่มีใครรักคุณเลย ทำไมหรอ คุณจะยังตั้งคำถาม แต่สำหรับโสด 10 ปีขึ้น จะมีช่วงเวลา Mood swing เหมือนกันนั่นแหล่ะ ขอให้ปล่อยวางให้ได้ และคนโสดนานจะโปรมากกว่าจะ Move on ได้เร็วกว่า (โสดอยากมีแฟนแต่ไม่ Desperate) และพวกโสดนานจะยิ่งเลือกกว่าปกติ เพราะจะคิดว่าไม่อยากเจ็บแบบเดิมๆก็เลยต้องดูดีๆหน่อยจริงไหมคะ แต่ถ้าเค้าเข้ามาก็ดูไปก่อนค่ะ อย่าเพิ่ง Judge เลยเนอะ
ไม่ว่าจะโสดแบบไหนจะโสดป้ายแดง หรือโสด 10 ปีก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขกันเถอะ บอกตัวเองไว้นะคะว่าจะโสดและแซ่บ แซ่บให้ตัวเองดูค่ะ แซ่บให้เพื่อนดูด้วย แซ่บให้ได้แฟนใหม่ที่แซ่บกว่าเดิม และอย่าลืมบอกลากล้องจุลทัศน์ด้วยนะคะ โชคดีค่ะ
Vi ses

คุณคิดอย่างไร